อเมริกัน พิทบูลเทอร์เรีย (American Pit Bull Terrier)
วันศุกร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2557
ความเป็นมา
ความเป็นมา
ในช่วงศตวรรษที่19 ผู้ที่นิยมสุนัขในประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ และสก๊อตแลนด์ ได้เริ่มที่จะผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างบูลด๊อกตัวที่เหนียวที่สุดกับ สุนัขเทอร์เรียตัวที่กล้าหาญ ที่สุด และดีที่สุดเข้าด้วยกัน ผลจากการผสมข้ามสายนี้ในไม่ช้าก็รู้กันว่าพวกมันคือ สุนัข บูล แอนด์ เทอร์เรีย(Bull-and-Terrier) หรือพวกมันก็คืออเมริกันพิทบูลนั่นเอง เพื่อต้องการที่ จะได้สุนัขที่มีลักษณะของการล่าเหยื่อ(เกมส์)ของสุนัขพันธุ์เทอร์เรีย กับ ความแข็งแกร่ง และความปราดเปรียวที่เหมือนกับสุนัขพันธุ์บูลด๊อก ผลที่ออกมานั้นก็คือสุนัขที่ประกอบไป ด้วยความเป็นนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ แข็งแรง ทรหด อดทน และอ่อนโยนกับคนที่มันรัก ผลของ การอพยพปรากฏว่ามีคนได้นำสุนัข บูล แอนด์ เทอร์เรีย นี้ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้คนที่เป็นเกษตรกรและเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ได้มองเห็นความสามารถ ของสุนัขพันธุ์ อเมริกันพิทบูลและได้ใช้มันในการปกป้องทรัพย์สิน
มาตรฐานการดูแลสายพันธุ์
ขนาด
สำหรับเพศเมีย 40-70 ปอนด์ สำหรับเพศผู้แต่ถ้ามีน้ำหนักถึง 80 ปอนด์ ก็ไม่ผิดมาตราฐานหากได้สัดส่วน มองดูแล้วสง่าสมส่วน ดูบึกบึน แต่ทว่า พิทบูล ที่มีน้ำหนักถึง 80 ปอนด์ นี้มีไม่มากนัก
ศรีษะ
สุนัขพันธุ์อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรียลักษณะดีๆ จะต้องมีศรีษะลักษณะเหมือนลิ่ม ที่มีปลายแหลม คือด้านระหว่างตากับตอนบนสุดของศรีษะจะเป็น รูปสี่เหลี่ยม แล้วค่อยๆมนแหลมลงมาบริเวณจมูก
ฟัน ขากรรไกรแข็งแรง มีลักษณะฟันแบบขบกรรไกร
ปาก ปากกว้างและลึก โดยมีความเรียวเล็กน้อยที่ปลายจมูก และลาดลงเล็กน้อยใต้ตา ความยาวของปากสั้นกว่าความยาวของกะโหลก เส้นบนของปากเป็นเส้นตรง ส่วนกรามล่างนั้นจะกว้างและลึก ริมฝีปากสะอาดและตึง
ตา มีขนาดปานกลาง กลมเป็นทรงอัลมอนด์ ตาเป็นประกาย สามารถมีสีไหนก็ได้ ยกเว้นสีฟ้าหรือตา 2 สี ถือว่าเป็นข้อบกพร่องที่ร้ายแรง
หู หูมีขนาดปานกลางพับลง ปกติจะตัดขลิบใบหูให้ตั้งขึ้น
จมูก บริเวณจมูกของสุนัขพันธุ์ อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย ที่ดีนั้น ควรจะมีขนาดปากปานกลางและจะต้อง มีรอยเว้าหรือดั้งพอประมาณ
คอ เพราะความที่มีสายเลือดของนักสู้เต็มตัว พิทบูล เทอร์เรีย จึงควรจะมีลำคอที่ขนาดปานกลาง หากลำคอสั้นจะทำให้เสีย เปรียบในการต่อสู้ เพราะขาดความยืดหยุ่นที่ดี
อก เพราะความที่เป็นสุนัขนักสู้ที่แข็งแกร่ง หน้าอกจึงถือว่ามีความสำคัญไม่น้อย จะต้องมีหน้าอกที่ลึกและกว้าง แสดงถึงความมีพลังซ่อนเล้น
ลำตัว ลำตัวใหญ่ กว้าง กลมและลึกลงมาตลอดลำตัวจนถึงบริเวณอก ซึ่งพื้นที่สำหรับหัวใจและปอด ความกว้างของช่วงอกควรมีสัดส่วนที่พอดีกับความลึก ไม่ควรมีความกว้างมากกว่าความลึก ช่วงอกหน้าไม่ควรขยายมากเกินกว่าหัวไหล่ซี่โครงแผ่ขยายจากกระดูกสันหลัง ช่วงท้องสั้น โค้งเล็กน้อยไปถึงส่วนบนของตะโพก ตะโพกลาดลงเล็กน้อย
เอว -
ขาหน้า กระดูกหัวไหล่นี้จะมีความยาวเกือบเท่ากับความยาวของกระดูกขาท่อนบน และกระดูกจะต้องอยู่ในมุมได้อย่างถูกต้อง ขาหน้าแข็งแรง และเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ข้อศอกอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับลำตัว เมื่อมองจากด้านหน้า ตำแหน่งของขาหน้าจะกว้างออกได้อย่างชัดเจน และตั้งฉากกับพื้นดิน กระดูกที่ติดกับกระดูกขาท่อนล่างของขาหน้านั้นจะสั้น แข็งแรง ตั้งตรง และมีความยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดี เมื่อมองจากด้านข้าง กระดูกที่ติดกับกระดูกขาท่อนล่างของขาหน้านี้เกือบจะตั้งตรง
ขาหลัง สะโพกมีสัดส่วนดี กว้าง และ หนาทั้งสองด้าน กระดูกและกล้ามเนื้อช่วงหลังสมดุลกับช่วงหน้า ขาท่อนบนหนาได้รูป เห็นกล้ามเนื้อชัดเจน อุ้งเท้าหลังอยู่ในตำแหน่งดี ตั้งฉากกับพื้น เมื่อมองจากด้านหลัง อุ้งเท้าหลังตรงเป็นรูปขนาน
หาง
อันนี้แล้วแต่คนชอบ ไม่มีมาตราฐานบังคับว่าจะต้องตัดหางให้สั้นหรือไม่ เหมือนหูนั่นแหละจะขลิปปลายทั้งสองหรือไม่ก็ได้ ความสูง อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย ควรจะมีความสูงประมาณ 17-18 นิ้ว สำหรับเพศเมีย และความสูงประมาณ 18-19 นิ้ว สำหรับเพศผู้
ขน ขนมีลักษณะเป็นเส้นตรง สั้น เรียบติดตัว เป็นเงางาม เรียบ ละเอียด และการจัดวางของเส้นขนจะหยาบเพียงพอสำหรับที่จะป้องกันผิวหนังได้
สีขน สามารถมีสีได้หลากหลายจากสีครีมไปจนถึงสีดำ หรือเฉดสีน้ำตาลแกมเหลืองและสีแดง ลายเสือรูปแบบของลายหลายๆเฉดสี
โรคที่ต้องระวัง
โรคที่ต้องระวังในสุนัขพันธุ์นี้ก็คือ โรคไข้หัดสุนัข (Canine Distemper) ซึ่งเป็นโรคที่พบได้กับสุนัขแทบทุกสายพันธุ์ ไม่เว้นแม้แต่อเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย สาเหตุจากเชื้อไวรัส Canine Distemper virus หรือ CDV RNA Virus Paramyxovirus การติดต่อ สามารถติดต่อทางระบบหายใจ จะติดทางน้ำมูก ขี้ตา น้ำลาย โดยหายใจเข้าไปหรือ หรือจากการสัมผัสอาการของโรค ถ้าเป็นแบบเฉียบพลัน อาการที่ปรากฎหลังได้รับเชื้อ จะมีไข้สูง เบื่ออาหาร เยื่อตาอักเสบ อาการดังกล่าวจะหายไปและจะกลับมา โดยสุนัขจะซึม เบื่ออาหาร จมูกแห้ง มีน้ำมูกและขี้ตาขุ่นเป็นหนอง ไอ คล้ายอาการของหวัด ปอดบวม อาเจียน ท้องเสีย กล้ามเนื้อกระตุก ชัก ขาหลังเป็นอัมพาตและตายไปในที่สุด แต่ถ้ารักษาได้ไม่เสียชีวิต สุนัขก็จะเป็นโรคนี้แบบเรื้อรัง ฝ่าเท้าจะหนา ผอม ไม่ตอบสนองต่อการรักษาและมักจะตายในเวลาต่อมา แต่ในสุนัขบางตัวที่ไม่ตาย จะใช้เวลารักษาหรือพักฟื้นนาน
การป้องกันขั้นแรกคือการได้รับวัคซีนป้องกัน และวัคซีนรวมที่จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคได้ นอกจากนี้ผู้เลี้ยงควรใส่ใจให้วิตามินตามคำแนะนำของแพทย์ และรักษาตามอาการของโรค เช่น ให้น้ำเกลือ ยาระงับชัก แต่สุดท้ายเจ้าหมาน้อยแสนรักก็จะจากไปในที่สุด ดังนั้น การป้องกันโรคไข้หัดที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนให้กับสุนัขไว้ตั้งแต่ยังเล็กและฉีดสม่ำเสมอทุกปีเป็นดีที่สุด
การดูแล
การดูแล
เคล็ดลับการเลี้ยงคือหากสุนัขทำผิด ก็ควรรีบนำตัวเข้ากรงทันที เป็นการลงโทษ เพื่อให้มันได้คิดว่า สิ่งที่มันทำนั้น เป็นความผิด และในระหว่างที่กำลังเจริญเติบโต ต้องฝึกมันเข้าสังคม พาจูงไปเดินสวนสาธารณะ ให้รู้จักคนเยอะๆ และพยายามให้สุนัขแยกออกด้วยตัวเองว่า ใครคือมิตร และใครคือศัตรู เวลาหลุดออกจากเชือกหรือกรง หากจะกัดจะได้กัดถูกคน ส่วนการให้อาหารต้องใส่จาน และต้องฝึกไม่ให้กินอาหารที่พื้น ป้องกันผู้ไม่ประสงค์ดี โยนอาหารปนยาพิษให้กิน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)